2 Comments

  1. ที่จริงแล้วธุรกิจแนวจับคู่ จุดสำคัญอยู่ที่ความไว้วางใจ
    และความขึ้นชื่อฝีมือในการจับคู่คนที่แมทกันนะครับ

    ตาถึง มองคนออก จับคู่คนแม่น เป็นคุณสมบัติของพ่อสื่อแม่สื่อทุกยุคทุกสมัย
    และอาชีพนี้ที่จริงมีมานานแล้วในสังคมทุกชาติ

    เหตุผลสำคัญเพราะคนที่ทำงานในสมัยนี้หมกหมุ่นกับความก้าวหน้าในการทำงานมาก
    และมีเวลาที่จะไปพบเพศตรงข้ามที่คุณสมบัติตามที่อยากได้น้อยลง

    การที่มีคนทำหน้าที่เชื่อมต่อเป็นคนกลางในการแนะนำคนที่ตรงกับเสปค
    มีนิสัยใจคอ รสนิยมที่เข้ากัน เป็นความสามารถเฉพาะทางแบบหนึ่ง
    ที่คนมักเชื่อถือในตัวบุคคลสูง

    ถ้าลงตัวเป็นที่พึงพอใจของผู้ใช้บริการจนเป็นตัวอย่าง
    ในที่สุดก็จะมีคนที่เชื่อมั่นมาใช้บริการมากขึ้น

    ที่จริงคำถามที่กรรมการยิง ถ้าจับประเด็นถูกก็ตีแตก
    เพราะแต่ละคำถามถ้าตอบได้ก็ยิ่งเข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้น

    เช่น เรื่องของความฉาบฉวยของหน้าตา
    เป็นอีกเรื่อง ไม่ใช่เรื่องของคนที่กำลังมองหาคนที่มีคุณสมบัติของครอบครัวหรือตั้งใจจะมีครอบครัวที่อบอุ่นเสมอไป

    ยิ่งถ้าเน้นค้นหาคนที่คิดและตั้งใจจะสร้างครอบครัวจริงมาเจอกัน
    ไม่เสียเวลาลองผิดลองถูกไปกับกลุ่มที่คบหาฉาบฉวยได้
    คัดคนที่ไม่ตรงเสปคออกไปได้

    ถ้าแยกแยะเรื่องความฉาบฉวยของหน้าตาออกไป
    ก้จะเหลือแต่แก่นของความตั้งใจที่จะใช้ชีวิตกับคนที่เข้ากันได้ไปจนแก่จนเฒ่า

    เป้นต้น

  2. สำหรับ Dr.date เหตุผลสำคัญที่ไม่ผ่าน อยู่ที่มัน “ลอย” จับไม่ติด
    และไม่เลือกนำเสนอในประเด็นที่เป็นรูปธรรม ที่มีเหตุผลความเป็นจริงสนับสนุน

    เช่น ระบบการจัดการสมาชิกที่เป็นลูกค้าทั้งของเดิม 5000 คน
    และแสดงถึงความสามารถในการรองรับจำนวนของสมาชิกที่ตั้งเป้าเพิ่ม
    ซึ่งจะสะท้อนศักยภาพการจัดการจับคู่ ตามกลุ่มความสนใจ การจัด segment
    เช่น รสนิยม ความชอบที่คล้ายกัน จุดร่วมที่สอดคล้องกันทางความคิด

    อย่างน้อยก็เอามาแสดงกลไกการเก็บข้อมูลพื้นฐานได้ และทำให้เห็นความสำเร็จที่ผ่านมา
    ก่อนที่จะชักนำทุกคนไปสู่เป้าที่ตัวเองกำหนด (นี่เอามาโชว์แค่คู่เดียวจาก 5 พันคน ?)
    เพื่อให้เห็นถึงศักยภาพในการค้นข้อมูลของสมาชิกที่มีประสิทธิภาพ
    ไม่อย่างนั้นก็ยังมองไม่ออกว่าการบริหารการจัดการรองรับสมาชิกถึง 5000 คน
    จะทำได้อย่างไร ? และจะรองรับคนที่เพิ่มถึง 20000 คนได้อย่างไร ?

    องค์ประกอบความสำเร็จที่จะทำให้คนตัดสินใจแต่งงานกันตามเป้า
    เป็นโจทย์สำคัญ ที่จริงควรประเมินจากของเดิมก่อนว่า
    ในระยะเวลาที่ผ่านมา 5000 คน แต่งงานไปแล้วกี่คู่
    และเพิ่มตามอัตราส่วนที่เกิดขึ้นมากกว่าตั้งเป้าแบบตัวเลขที่ปราศจากความเป็นได้รองรับ

    ถ้าสร้างคู่รักได้ 365 คู่และคู่แต่งงาน 12 คู่ เดือนละคู่ ยังไม่ง่ายเลยครับ แต่ยังเป็นไปได้มากกว่า
    การตั้งเป้าที่จะทำให้ลูกค้าได้แต่งงานวันละคู่ จำนวน 365 คู่ที่จะแต่งงานใน 1 ปี

    ทั้งที่ธุรกิจจับคู่มีศักยภาพทำได้จริง
    แต่คนนำเสนอไม่สามารถนำจุดเด่นเหล่านั้นมาแสดงให้เห็นได้เลย

Comments are closed.