Remy Martin Club Launch รีวิวทดสอบคอนยัคที่ว่าดีที่สุด 1 ใน 4 ของโลก
Remy Martin Club

ว่ากันว่า สุดยอดของสุราที่ทำจากองุ่น คือ บรั่นดี สุดยอดของบรั่นดี คือ คอนยัค เรื่องนี้จู่ ๆ ฟังแล้วจะให้รีบเชื่อ มันก็กระไรอยู่ จนกว่าจะได้พิสูจน์ด้วยตัวเองครับ คิดแบบนี้ตั้งแต่ได้ยินครั้งแรก และหลังจาก 24 ปี แห่งการลิ้มลองทดสอบและเปรียบเทียบมาหลายชนิด ก็ต้องยอมรับว่า คอนยัค เป็นสุราที่ทำจากองุ่นที่สุดยอดจริงครับ ทั้งกลิ่น สี รส รสชาติตกค้างในปาก ความกลมกล่อมของการบ่มที่ยาวนาน หลายๆ อย่างที่ทำให้ยอมรับว่าคำร่ำลือนั้นสมศักดิ์ศรีจริง
ก่อนจะเล่าถึงการได้ทดสอบรสชาติ ที่ทาง Remy Martin ให้เกียรติเชิญไปลิ้มลองคอนยัคตัวใหม่ Remy Martin Club ก็ขอถือโอกาสเล่าเรื่องเกี่ยวกับบรั่นดี ที่เรียกว่า คอนยัค แบบเล่าสู่กันฟังครับ ความอร่อยของคอนยัคส่วนหนึ่งมาจากความเป็นมานี่แหละครับ อ่านแล้วยิ่งจะสุนทรีในการดื่มยิ่งขึ้น

คอนยัคก็คือ บรั่นดี สุราที่ทำจากองุ่น และไม่ใช่บรั่นดีทุกตัว จะได้เป็นคอนยัค เพราะจำเพาะเจาะจงว่าจะต้องผลิตจากองุ่นที่ปลูกในแคว้นคอนยัค ประเทศฝรั่งเศส จากในช่วงเดือนตุลาคม จากแหล่งไร่องุ่นในหกพื้นที่ คือ Grande Champagne, Petite Champagne, Borderies, Fins Bois, Bons Bois และ Bois Ordinaires.ซึ่งรวมถึงกระบวนการผลิตก็จะต้องผลิตในแคว้นคอนยัค ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งปัจจุบันผู้ผลิตคอนยัครายใหญ่สี่เจ้า ที่มีคุณภาพดีที่สุด ก็ได้แก่ Martell, Hennessy, Courvoisier และ Remy Martin ครับ

พูดให้เข้าใจง่าย ๆ อีกทีว่า คอนยัคทุกขวด ก็คือ บรั่นดี แต่ไม่ใช่บรั่นดีทุกขวดจะเป็นคอนยัค เพราะคอนยัคคือพื้นที่เล็ก ๆ บริเวณภาคตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส ที่มีกฎหมายควบคุมการผลิต(AOC)อย่างเข้มงวดโดยเฉพาะ พูดชัดๆ คือ ถ้าไม่ได้ผลิตที่นี่ก็จะเป็นแค่บรั่นดี ไม่มีสิทธิ์ใช้คำว่า คอนยัค (คอนเซปต์แบบนี้มี เตกีล่า อีกอัน)
Remy Martin เอง ถ้าเราสังเกตฉลากจะเห็นระบุในฉลากเสมอว่า เป็น Fine Champagne เป็น องุ่นที่มาจาก Grande Champagne และ Petite Champagne ผสมกันครับ

จากไวน์ที่มาจากแถบตะวันตกของฝรั่งเศส ซึ่งเริ่มมีชื่อเสียงในคริสต์ศตวรรษที่ 12 และมีการเอาไวน์จากแถวนี้ไปกลั่นกลายเป็นเหล้า เหล้าชนิดนี้เรียกกันว่า eaux-de-vie (แปลว่าน้ำแห่งชีวิต) หรือถ้าเรียกแบบเข้าใจง่ายๆ ก็คือ ไวน์กลั่น จากไวน์ที่เอามากลั่นเป็นเหล้าแล้ว เรียกว่า โอดาวี ยังเอามาบ่มลงถังไม้โอ้คต่ออีก (แค่เอามาบ่มเป็นไวน์ยังไม่พอ ยังเอาไปกลั่นแล้วบ่มอีก) บ่มแล้วถึงจะเรียกว่า คอนยัค
โอดาวี จะถูกนำมาบ่มลงในทั้งถังไม้โอ้คเก่าและใหม่ เปลี่ยนถ่ายจากถังสู่ถังเพื่อหมักบ่มต่อจนได้กลิ่นและรสเฉพาะ โดยกลิ่นและรสนี้จะอยู่กับชนิดของไม้ของถังที่นำมาใช้บ่มซึ่งจะเป็นสไตล์ สี กลิ่น รส ที่เราจะได้สัมผัสกันอย่างเต็มๆ ในยามที่ได้ลิ้มลองจากขวดบรรจุในท้ายที่สุด ในนาม คอนยัค

ระยะเวลาบ่มในถังไม้โอ้ค เป็นตัวกำหนดคอนยัคชนิดต่างๆ เป็นลำดับๆกันไป โดยชนิดธรรมดา เรียกว่า VS (very superior) เป็นคอนยัคสามดาว มีอายุการบ่มไม่มากประมาณ 3-5 ปี ชนิดดีกว่า จากอายุการหมักบ่มประมาณ 7-10 ปี ทำให้ได้รสชาติที่สุขุม นุ่มนวล กลิ่นจรุง มากกว่าระดับสามดาว จะเรียกว่า VSOP (very special old pale) สังเกตง่ายจากสี โดยจะมีสีที่เข้มกว่า คอนยัคชนิดนี้ ยังมีชนิดพิเศษที่ผ่านการหมักบ่มอันยาวนาน ทำให้มีจำนวนน้อยและมีราคาแพงขึ้นไปอีก มีการเพิ่มสัญลักษณ์ตัวอักษรเพิ่มเข้าไปอีกเช่น F (fine) X (extra) XO (extra old) Extra Vielle Grand Reserve ฯลฯ

สี กลิ่น รส น้ำหนักเวลาแกว่งไกว ความเข้มของสี และแสงสะท้อนเนื้อเหล้ากับแสง รสชาติตกค้างที่นิ่มนวลสุขุม จรุงทั้งกลิ่นและรส กลิ่นนำเวลาไกวแก้วที่ลอยขึ้นแตะจมูกก่อนดื่ม กลิ่นตีขึ้นจมูกขณะดื่ม และหลังดื่ม ความร้อนวูบวาบที่ไม่บาดคอ มีรสติดปลายลิ้น นี่คือเกณฑ์ทดสอบของผมโดยปกติ
แม้ว่าจะเคยดื่มตัวหนักของ Remy Martin มาแล้ว แต่ว่า สำหรับวันนี้ Remy Martin Club ก็ทำคะแนนออกมาได้ดีทีเดียว ความนุ่มของขวดนี้ ลองให้คนที่ไม่เคยดื่มได้ทดลองลิ้มเป็นอันติดใจทุกคน เพราะไม่บาดคอ และกลิ่นรสสื่อความสุนทรีออกมาได้ในระดับจัดเต็ม เหมาะมากสำหรับการดื่มหลังอาหาร หลายคนน่าจะชอบเอาไปดื่มแบบสังสรรค์ เพราะความนุ่มของรส สี กลิ่น ที่อวลประทับใจจนกลายเป็นหัวเรื่องพูดคุยสนทนาที่ออกรสได้ไม่ยาก แต่ส่วนตัวผมรู้สึกว่าเหมาะมากกับการทานกับอาหารหลายชนิด และหลังอาหาร แบบเบา ๆ สักเป้ก ให้คะแนนอย่างตรงไปตรงมาว่าเป็นขวดที่น่าเก็บไว้สักขวดในบ้าน เจริญอาหาร
ตัวที่แนะนำให้ลองคือ เสต็กเนื้อย่างติดมันร้อนๆ โยนชิ้นเล็กๆอุ่นๆ เข้าปากแล้วตบด้วย Remy Martin Club ครึ่งเป้ก ความร้อนของเนื้อจะยิ่งขยายกลิ่นที่พุ่งพรั่งออกมาตีจมูกกำจาย ก่อนที่รสชาติตกค้างร้อนๆ อุ่นวาบจะผสมผสานกับรสของเนื้ออย่างกลมกล่อมลงตัว ลองดูครับ แนะนำจากประสบการณ์การณ์ส่วนตัวนะครับ (หลายคนชอบดื่มเพียวสังสรรค์มากกว่า อันนี้ก็ตามความชอบนะครับ)

ลีลาของกลิ่นอายที่ได้รับจากการดื่มที่ระอุอุ่น สัมผัสและรู้สึกได้โดยตรงจากผู้ดื่ม ความท้าทายของ กลิ่น สี รส และความเย้ายวนของคอนยัค นับเป็นหนึ่งในไฟล์ทบังคับของการทดสอบทั้ง 6 อันได้แก่ Brandy / Gin / Rum / Tequila / Vodka / Whisky และเป็นทั้งความท้าทายของนักดื่มตัวจริงที่จะต้องลิ้มลองและรู้จักรสสักครั้ง ก่อนที่จะบอกได้ว่าเป็นนักดื่มที่ได้ลิ้มลองเหล้ามาทุกชนิดแล้วตัวจริง (ความรู้เรื่องเหล้าเหมาะสำหรับผู้ที่บรรลุนิติภาวะ และมีวุฒิภาวะแล้วเท่านั้นนะครับ)

ตอนหน้าเดี๋ยวจะมารีวิวบรรยากาศของงานกันเต็มๆ อีกรอบครับ รอติดตามกันนะ