วิชพงษ์ หัตถสุวรรณ (บูม) ผมจะปั้น SELVEDGEWORK ให้เป็นแบรนด์ ของ Custom Made Jeans
บูม วิชพงษ์ หัตถสุวรรณ มีร้าน SELVEDGEWORK อยู่ที่สยามแสควร์ ซอย 2 เป็นร้านยีนส์ Custom Made Jeans เกรด Premium กางเกงยีนส์ที่ทำขึ้นเพื่อลูกค้ารายบุคคล ลูกค้าสามารถกำหนดความต้องการต่างๆ ของตัวเองได้ การที่รับสั่งทำให้ลูกค้าแบบเป็นรายบุคคล มุ่งตลาดเฉพาะเจาะจง (niche market) ทำให้ร้านเขามีเอกลักษณ์ และมีสไตล์เฉพาะตัว ตั้งแต่กระดุม ป้าย และผ้าให้เลือกตามความเหมาะใจของลูกค้า เป็น Custom Made Jean ที่ผู้สวมใส่ถูกใจในเอกลักษณ์เฉพาะตัว
สไตล์ของเขา คืออะไร มีแรงบันดาลใจจากไหน ก่อนที่จะปักหลักตั้งใจกับการทำยีนส์ร้านนี้ เขาเริ่มต้นจากอะไร ฝันไว้อย่างไร ชีวิตของนักเรียน นักศึกษาที่จะก้าวขึ้นมาเลือกเส้นทางชีวิต เลือกสร้างร้านของตัวเองและใฝ่ฝันที่จะสร้างแบรนด์ SELVEDGEWORK ของตัวเองให้เป็นอย่างไร วันนี้ พาไปสัมภาษณ์เจาะลึกมุมมองความคิดของเขา กันครับ
ถาม ขอถามตรง ๆ นะครับ เพราะประเด็นหลักเป็นเรื่องของการค้นหาตัวเองของคนในรุ่นของบูม ที่เพิ่งเรียนจบมาแล้วก็ต้องค้นหาเส้นทางของตัวเอง และในช่วงเวลาแบบนี้มีทางเลือกของชีวิตหลายทาง และบูมเองก็เป็น 1 ในนั้น เป็นคนรุ่นใหม่ที่คิดหาเส้นทางของตัวเอง เล่าได้ไหมครับ
ตอบ จริงครับ บูมก็เป็น คือพอเรียนจบมันก็มีทางเลือกมาก ใจนึงก็คิดอยากทำงานบริษัท แต่ว่าต้องเป็นงานในสายที่เรียนมา และตำแหน่งที่อยากทำ คือ Media Planer ก็สมัครงานหลายที่ ระหว่างนั้นก็ทำตามความฝันตัวเองไปด้วยอีกทางระหว่างรอผล ก็คือเรื่องยีนส์ ที่รักและชอบมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วก็ฝันว่าอยากจะมีแบรนด์เป็นของตัวเอง ซึ่งก็รู้ว่ามันยากแหละ อีกอย่างอีกใจก็ยังอยากทำงานตามที่เรียนมา สะสมประสบการณ์
ถาม แล้วมาหักเหสู่การตัดสินใจที่ตกผลึกว่าจะทำร้านยีนส์ได้ยังไง คือ มันต้องมีตัวส่งตัวผลักดันกันบ้างแหละ
ตอบ ก็เพราะว่าตอนนั้นมีช่วงนึงที่สมัครงานไว้แล้วได้งานในตำแหน่งที่อยากทำ ใจก็คิดเลยว่างั้นจะลงเต็มตัวในสายงานที่เรียนมาละ แต่ปรากฏว่ามันพลิก พลิกเพราะที่บริษัทมีเจ้าของ 2 คน คนที่รับก็ว่าจะรับเรา ส่วนเจ้าของอีกคนก็จะรับอีกคน เค้าก็มาคุย มาต่อรองว่าเค้ารับเรานะแต่ไม่ใช่ตำแหน่งเดิมที่สมัครได้ไหม ก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่ ถ้าไม่ใช่เลยอย่างที่เราตั้งใจสู้ไม่เอาดีกว่า เรากลับมาทำสิ่งที่เรารักดีกว่า ก็กลับมาปักหลักทำร้านจริงจังจนถึงทุกวันนี้
ถาม แล้วเริ่มต้นได้ยังไง จุดไหนที่คิดว่าทำร้านนี้ได้ ไปรอด
ตอบ จริงๆแล้วเราก็ไม่รู้หรอกครับ แต่คิดแล้วต้องทำ ตอนแรกก็เริ่มจากแบบไม่มีต้นทุนก่อน คือ ทำแคทตาลอคยีนส์เอาไปขายเพื่อนๆ ปรากฏว่าก็ได้ผลดี ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี ประสบความสำเร็จ ก็เลยดีไซน์แพคเกจกล่อง ลองสั่งผลิตดู ทำแบบดีไซน์ขายกางเกงเอง ต่อมาก็เลยมาหาที่เปิดร้าน ก็พอดีเจอที่ว่างที่นี่ สยามแสควร์ ซอย 2 ที่จริงก็หาหลายที่ แต่จังหวะชีวิตมันมาลงตัวที่นี่ พอเริ่มทำก็แบบไม่ค่อยมั่นใจมาก แต่ว่าเราก็ไปรอด และเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้
ถาม จริงๆ สนามของยีนส์ นี่ไม่ใช่ง่ายๆ นะครับ โดยเฉพาะการจะมียีนส์ที่เป็นแบรนด์เป็นของตัวเอง คือเอาง่ายๆ ตั้งแต่การผลิต การสตอก การสั่งสินค้า ถ้าไม่มีพื้นฐานเลยจะมาเริ่มมันก็ไม่น่ามาง่ายๆ ขนาดนั้น มีอะไรที่เป็นตัวสนับสนุนที่เป็นฐานผลักดันเราไหม
ตอบ ก็มีครับ ก็ทำก็จะปรึกษาคุณพ่อ ปรึกษาที่บ้าน เอาแผนเอาความคิดไปเล่า คือไม่ใช่อยู่ดีดีเราทำ แต่เราศึกษา เราปรึกษาที่บ้าน ซึ่งที่บ้านก็ทำยีนส์ ครอบครัวเปิดบริษัท เทพฤกษ์ จำกัด ทำธุรกิจโรงงานรับจ้างผลิต (OEM) กางเกงยีนส์ให้แก่แบรนด์ใหญ่มากว่า 30 ปี เราก็มีพื้นฐานรักชอบ และมีความรู้จากการช่วยที่บ้านมาแต่เด็ก แล้วก็ฝันเองว่าจะมีแบรนด์ตัวเอง ซึ่งเรื่องที่ประทับใจสำหรับผมก็น่าจะเป็นคำพูดของพ่อ เพราะหลังจากที่ตัวผมเริ่มดีไซน์ทำกล่องเองทำแพ็คเกจตัดกางเกงเองเสร็จสรรพทุกอย่างจนเป็นโปรดักส์แล้ว คนที่ชมผลงานก็คือ พ่อผมเองที่ชมว่ามันสวยมากและพ่อเชื่อว่ามันจะขายได้
ถาม สรุปง่ายๆว่าเราต่อยอดมาจากพื้นฐานที่บ้าน เป็นความคิดที่คิดจากพื้นฐานศักยภาพที่เราทำได้จริง
ตอบ ใช่ครับ คือคิดแล้วทำได้ มันต้องมาจากความเป็นจริง ความเป็นไปได้ที่เรามี ก็ทำการบ้านมาก วางแผนแล้วก็เอาไปปรึกษากับครอบครัว ให้ดูตลอด คิดแล้วก็ต้องกล้าทำครับ แต่หมายถึงเราต้องมีการวางแผนและปรึกษาค้นคว้าให้ดีก่อนนะครับ ไม่ใช่อยู่ดี ๆ ทำดื้อๆ เลย ยังไงเราก็ต้องมีการวางแผนก่อนจะทำอะไรทั้งนั้น และผมเชื่อว่าอะไรที่เราตั้งใจทำและทำให้มันดี มันต้องไปได้ครับ
ถาม คิดจะต่อยอดงานที่ทำตอนนี้ไปยังไงบ้าง
ตอบ ใกล้ๆ ก็คิดว่าอาจจะขยายเพิ่มอีกสักสาขาครับ ตอนนี้ก็มองๆดูอยู่อาจจะเป็นในนี้หรือต่างประเทศเพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น และจะทำเว็บไซต์มีโปรแกรมไว้รองรับในส่วนของ Custom made ลูกค้าสามารถเลือกสั่งตัดทำกางเกงยีนส์ผ่านทางออนไลน์ได้เลย สามารถเลือกได้ตั้งแต่เนื้อผ้า รูปแบบทรง เส้นด้าย ไปจนถึงกระดุมต่างๆ เรียกว่ามันจะเป็นกางเกงยีนส์ในแบบฉบับของแต่ละคนเองได้เลย ผมมองว่าการมีเว็บออนไลน์มันยังสามารถทำให้สินค้าของเรานั้นออกไปได้ไกลในตลาดระดับโลกได้อีก ผมอยากทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก คือ แบรนด์มันเป็นอะไรที่เจ๋งมาก ถ้าวันหนึ่งมีเสื้อยืดสีขาวที่ไม่มีลายอะไรเลย แค่มีโลโก้เล็ก ๆ ของแบรนด์อยู่บนนั้น ทุกคนก็อาจจะวิ่งเข้ามาซื้อ ถ้ามันถึงจุดนั้นได้ผมว่ามันสุดยอด
ถาม คิดว่าการปักหลักทำงานทุ่มเทตรงนี้จะปิดโอกาสเราในการเรียนรู้ด้านอื่นๆไหมครับ
ตอบ ตัวผมเองอาจจะ Manage เวลาของตัวเองยังไม่ค่อยดี แต่ว่าในอนาคตอาจจะดีกว่านี้ กับเพื่อนฝูงก็แบบว่าห่างๆ ไปเหมือนกัน หลังจากที่มาทำตรงนี้เต็มตัว ก็อยากกลับไปเชื่อมโยงทุกคนเหมือนแต่ก่อน เพราะช่วงเวลาในมหาลัยมันโคตรเจ๋ง ทุกคนแบบว่าไม่มีอะไรมากั้นเลย ครั้งล่าสุดอย่างที่ผมได้ไป คืองาน Wonderfruit Festival ผมว่ามัน Happy มาก มันเป็น Festival ที่มันสบาย ๆ ได้ไปนั่งชิล ๆ อยากจะนอนตรงไหน อยากจะทำอะไร ก็ทำได้ มันเจ๋งดี เหมือนได้ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เพื่อเติมเต็มสิ่งที่หายไปในชีวิต อยากทำหลายๆ อย่างอยากไปเที่ยว อยากออกไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ อยากเรียนต่อ อยากไปเจอผู้คนใหม่ๆ ด้วย แต่ช่วงนี้อาจจะแบบว่ายุ่งกับงานมาก
พอถึงจุดหนึ่งที่เราประสบความสำเร็จ หรือโอเคกับมันแล้ว จะออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ อย่าง ไปตามชุมชน ต่างๆ ไปปีนเขา ซึ่งเมื่อก่อนชอบไปปีนกับเพื่อนๆ แต่ช่วงนี้ยังไม่มีเวลาที่จะไปทำ
ถาม จริงๆ ก็เป็นเรื่องปกติด้วยนะครับ ไม่ว่าทำร้านหรือทำอะไรต่างๆ ในชีวิตเราก็มีอุปสรรค แต่เชื่อว่าบูมก็น่าจะผ่านอะไรพวกนี้มาเยอะ อยากบอกอะไรคนรุ่นเดียวกันไหมเวลาเจอปัญหาแล้วจะต้องผ่านมันไปให้ได้
ตอบ น่าจะเป็นเรื่องการทำด้วยใจรัก อย่างผมไม่เคยรู้สึกอึดอัดกับการทำงาน ทุกครั้งที่ มาร้านรู้สึกมีความสุข เหมือนอยู่บ้าน ผมว่ามันก็ชิลนะ เหมือนไม่ได้กดดันเครียดอะไรกับการทำงาน แต่เวลาหลังจากปิดร้านก็อาจจะต้องนั่งทำงานต่อ และถ้าไม่ได้ทำด้วยใจรัก ก็คงเลิกไปแล้ว เพราะว่าเวลาที่เจออุปสรรคที่มันใหญ่ หรือที่เจออุปสรรคมาตลอดช่วงระยะเวลา 3 ปีนี้ ถ้าไม่เชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ หรือไม่ชอบมัน ผมว่าคงเลิก แล้วเอาเวลาไปเที่ยวเล่นนานแล้ว
ถาม นอกจาก ยีนส์แล้วมีอะไรที่รัก ชอบและฝันอยากทำอีกไหมครับ จะวางแผนกับมันยังไง
ตอบ ก็มีครับ ผมชอบดนตรี ก็ซ้อมกับเพื่อนๆ มาตั้งแต่สมัยเรียน แล้วก็อยากเป็น rock star ซึ่งก็ยังไม่ทิ้งนะครับ ยังทำอยู่ ก็คิดว่าจะเป็นอีกด้านในอนาคตเหมือนกันที่อยากไปให้ถึง
บูม วิชพงษ์ หัตถสุวรรณ เป็นชายหนุ่มรุ่นใหม่ เช่นเดียวกับคนรุ่นใหม่อีกหลายคนที่กำลังค้นหาเพื่อเติบโตในเส้นทางตัวเอง แน่นอนว่าเส้นทางนี้มีทางเลือกมากมายในช่วงวัยและแต่ละคนจะต้องเจอกับสิ่งผลักดันทั้งทางบวกและลบมากมาย ก่อนที่จะตกผลึกที่จะลองเลือกเส้นทางของตัวเอง ซึ่งไม่มีผิดหรือถูก เพราะสิ่งเหล่านี้คือประสบการณ์ชีวิต ที่มีทั้งความผิดพลาดและความสำเร็จให้เรียนรู้ก่อนที่จะตกผลึกในชั้นต่อไป แต่อย่างน้อยการเลือกเส้นทางที่ใจรัก และมีพื้นฐานความเป็นจริงสนับสนุน ฝันของเขาที่จะสร้างแบรนด์ SELVEDGEWORK ก็เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เขาเชื่อเสมอว่า อะไรที่เราตั้งใจทำและทำให้มันดี มันต้องไปได้ และผมก็เชื่อแบบนั้นเช่นเดียวกัน